แพทย์รามาธิบดี ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ น้องจีน - น้องจีโอ้ สำเร็จ จากน้องชายซึ่งป่วยโควิด 19 เพื่อรักษาพี่สาวป่วยโรคธาลัสซีเมีย ความสำเร็จเคสแรกของโลก ตอกย้ำความเป็นเลิศทางการแพทย์ของไทย
อ่านข่าว : น้องจีโอ้ กำลังจะบริจาคสเต็มเซลล์ ช่วยชีวิตพี่สาว กลับพบติดโควิด 19 ก่อน คนแห่ส่งกำลังใจ
ล่าสุด (23 มิถุนายน 2563) ไทยโพสต์ รายงานว่า มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมด้วยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวความสำเร็จ การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์อย่างเร่งด่วนเคสแรกของโลก ในช่วงวิกฤตโควิด-19 จากน้องจีโอ้ ผู้บริจาคไขกระดูก ที่ปัจจุบันอายุ 5 ขวบแล้ว ในฐานะผู้ติดเชื้อ COVID 19 เพื่อรักษาน้องจีน พี่สาว ซึ่งตอกย้ำความเป็นเลิศทางการแพทย์และก้าวสำคัญของรามาธิบดี
โดย ศ. นพ.สุรเดช หงส์อิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดในเด็ก อาจารย์ประจำภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การรักษาน้องจีน ถือว่าเป็นเคสพิเศษ เพราะรักษาในช่วงโควิด 19 ดังนั้น คณะแพทย์ต้องแข่งกับเวลา เนื่องจากน้องจีนได้เข้ากระบวนการเตรียมความพร้อมของร่างกาย ด้วยการรับเคมีบำบัดหรือคีโม ครบเรียบร้อยในวันที่ 7 เมษายน ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำและเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต หากไม่ได้รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ในเวลานั้น
เคสนี้จึงท้าทายและซับซ้อนมาก เพราะในวันที่ต้องเก็บสเต็มเซลล์น้องจีโอ้ กลับตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 ทำให้ต้องอยู่ในฐานะผู้ป่วยอีกคน ทั้ง 2 คนอายุยังน้อย ทุกขั้นตอนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ การเก็บสเต็มเซลล์จากไขกระดูกจึงมีความเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงของสเต็มเซลล์ที่จะมีเชื้อโควิด 19 รวมถึงขั้นตอนการปลูกถ่าย
ด้าน รศ. นพ.อุษณรัสมิ์ อนุรัฐพันธ์ แพทย์ผู้ดำเนินการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด อาจารย์สาขาวิชาโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางทางพันธุกรรม คนไทยมีพาหะของโรค หรือสามารถเพาะโรคได้ประมาณร้อยละ 40 และมีผู้ป่วยโรคนี้ถึงขั้นรุนแรง และต้องรักษาเพิ่มเติมประมาณ 1 แสนราย เป็นกลุ่มที่สามารถรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูกของบุคคลอื่นโดยทั้งผู้ให้และผู้รับต้องมีความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อโดยสมบูรณ์ 100% สำหรับเคสน้องจีน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะหาสเต็มเซลล์ที่เข้ากันได้ในผู้บริจาคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางพันธุกรรมมีน้อยมาก คิดเป็นอัตราส่วน 1 ใน 20,000-50,000 ราย ซึ่งต้องใช้เวลา ส่วนการตัดต่อยีนไม่สามารถทำได้ ดังนั้น สเต็มเซลล์ของน้องจีโอ้ จึงเป็นความหวังเดียว
เมื่อตรวจน้องจีโอ้ด้วยวิธี RT-PCR ผลออกมาเป็นบวก ทั้งที่วันต่อมาต้องปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ให้น้องจีน ซึ่งได้รับยาเคมีบำบัดขนาดสูงไปแล้ว อาจจะทำให้เกิดไขกระดูกฝ่อ และเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ จึงมีการประชุมกับทีมแพทย์ทันทีกว่า 4 ชั่วโมง มติคือต้องปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากน้องจีโอ้ตามแผน แต่ต้องย้ายน้องจีโอ้ไปกักโรค และรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ ศูนย์ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19
จากนั้นทีมแพทย์ได้ดำเนินการผ่าตัดเจาะไขกระดูกกว่า 1 ชั่วโมง และนำกลับมาตรวจอีกครั้ง เพราะคนไข้ที่เป็นโควิด 19 จะติดเชื้อในกระแสเลือดร้อยละ 10 ซึ่งผลออกมาพบว่าไขกระดูกไม่มีการติดเชื้อ จากนั้นจึงตรวจเช็กระยะกว่า 10 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้ ไม่เพียงเป็นความน่ายินดีที่เราสามารถช่วยชีวิตคู่พี่น้องได้อย่างปลอดภัย แต่นี่ยังถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในการรักษาผู้ป่วยที่น่าภาคภูมิใจของการแพทย์ไทยอีกด้วย
ขณะที่พ่อของเด็กทั้งคู่เล่าว่า น้องจีนมีแนวโน้มป่วยเป็นธาลัสซีเมียตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ ที่ผ่านมาน้องจีนเข้ารับการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลของหมอโรงพยาบาลรามาธิบดี จนปลายปี 2561 ครอบครัวได้รับข่าวดี เนื้อเยื่อของน้องจีนและน้องจีโอ้เข้ากันได้ ครอบครัวจึงตัดสินใจให้น้องจีนเข้ารับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์อย่างไม่ลังเล โดยน้องจีนได้รับคิวผ่าตัดในเดือนเมษายน 2563 กระทั่งทราบว่าภรรยาและน้องจีโอ้ ติดโควิด 19 ทำให้ทุกคนจำเป็นต้องแยกจากกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
![หมอรามาฯ ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ น้องจีโอ้ หมอรามาฯ ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ น้องจีโอ้](http://img.kapook.com/u/2020/rungtip/covid19/g4_3.jpg)
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์
June 23, 2020 at 05:05PM
https://ift.tt/2V66aly
หมอรามาฯ ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ น้องจีโอ้ จากผู้ป่วยโควิด 19 สำเร็จเคสแรกของโลก - Kapook.com
https://ift.tt/3cBBBtN
Bagikan Berita Ini
0 Response to "หมอรามาฯ ปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ น้องจีโอ้ จากผู้ป่วยโควิด 19 สำเร็จเคสแรกของโลก - Kapook.com"
Post a Comment